วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

4 เรื่อง ทำแล้วจบ!!!

4 เรื่องไม่ควร : ทำแล้วจบ!!






     - เรื่องกิน !! พึงระวังไว้ค่ะน้องๆ ก่อนเข้าห้องเรียน ต้องให้พอดีๆ เข้าไว้ อย่ามากจนเกินไป เพราะหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน ง่วงนอนแน่ๆ แต่จะมาอดอาหาร ก็ไม่ควรอีกนั่นแหละ ท้องว่างๆ เข้าไปเรียน จะเอาแรงที่ไหนไปใช้คะ สมองไม่แล่น หูอื้อ ตาลาย คล้ายจะเป็นลม

     - หลบไปอยู่มุดมืด ตัดตัวเองออกจากโลกภายนอก ก้มหน้าก้มตา ไม่สบตาอาจารย์ ทำแบบนี้เรียกว่าอันตรายแล้วค่ะ เพราะท่านจะเข้าใจว่า เราไม่สนใจ อาจมีปัญหาเรื่องเกรดตามมาได้ เหวอๆๆ

     - คุยเรื่องอื่น ที่ไม่เกี่ยวกับวิชานั้น ถ้าเกิดว่าคุยกันในเนื้อหาที่เรียน โดยอยู่ในขอบเขต พี่แนนว่า ก็เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่ดีอย่างหนึ่งนะคะ อาจจะซักถามสิ่งที่เราพลาดไป ไม่ทันฟัง หรือถามเพื่อนว่าเข้าใจตรงกันไหม ถ้าไม่ตรงกัน จะได้ถามอาจารย์ได้ อันนี้พี่แนนว่า ดีกว่าเยอะค่ะ 

     แต่ถ้าชวนคุยเรื่องอื่นๆ อาจจะคุยได้บ้าง แต่ถ้านานๆหรือบ่อยๆ จะทำให้เราไม่มีสมาธิเรียนนะคะ อาจจะต้องบอกเพื่อนว่า ให้รอแป๊บ หมดชั่วโมงเดี๋ยวมาเม้าท์กันต่อนะ

     - แอบเอางานอื่นมาทำ แถมยังเป็นคนละวิชาด้วย โอ่ยๆ ถ้าอาจารย์เห็น รับรอง แย่แน่ๆ ค่ะ 





วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

5 เรื่อง ทำแล้วเจิด!!!

     พูดถึงเรื่องเรียน แล้วนึกถึงบรรยากาศในห้องเรียนเลยค่ะ ไม่รู้น้องๆ แอบคิดถึงกันบ้างไหม วันนี้พี่แนน เลยพาน้องๆ กลับไปสู่บรรยากาศในห้องเรียนกันค่ะ แต่จะกลับไปแบบธรรมดาก็คงไม่สนุก เลยมี"5+4 เรื่องที่ควร Vs ไม่ควร ทำในห้องเรียน" มาฝากกันด้วย ขอบอกว่า ถ้าทำได้ เกรด 4 เกรด A ไม่หนีน้องๆ ไปไหนแน่ๆ คอนเฟิร์ม !! ฟันธง!! ชัวร์!! (มั่นใจจริง ฮ่าๆ)







5 เรื่องควร : ทำแล้วเจิด!!!


     - นั่งหน้าห้องเรียน!! ให้ใกล้ครูมากๆ เข้าไว้ค่ะ ลบค่านิยมหนีไปนั่งแถวหลังไปให้หมด นั่งหน้านี่หล่ะค่ะ เวิร์คมากๆ น้องบางคนอาจจะคิดว่า นั่งหน้าแล้ว จะแอบทำอะไรก็ลำบาก คุยกับเพื่อนก็ยาก นั่นแหละค่ะ ประเด็น!! นั่งหน้าจะโดนบังคับไปโดยปริยาย ทำให้เราสนใจ และจดจ่อเรื่องเรียนมากกว่าปกติ แอบหลับ แอบเม้าท์ ได้ยาก อิอิ


     ที่สำคัญ คุณครู หรืออาจารย์จะได้จำหน้าเราได้ และประทับใจว่าเรามีความตั้งใจเรียนด้วยนะคะ เย้ๆ


     - ทิ้งปัญหาสารพัดไว้นอกห้องเรียน!! พอเข้าห้องเรียนแล้วก็นึกไว้แค่ว่า ตั้งใจกับเรื่องในห้องเข้าไว้ เพราะต่อให้เราแบกปัญหา หรือเรื่องกวนใจต่างๆ เข้าไปด้วย ก็แก้อะไรมันไม่ได้ สู้ตั้งใจเรียนก่อน เลิกเรียนแล้วค่อยคิดถึงปัญหาก็ยังทันนะคะ


     - คน ไม่ใช่หุ่นยนต์ ที่จะนั่งฟังได้ตลอดเวลา แน่นอนค่ะ มันต้องมีง่วง มีล้ากันบ้าง พี่แนนแนะนำให้แก้โดยการยกมือตอบคำถามบ้าง สอบถาม หรือแสดงความคิดเห็นกับครูอาจารย์บ้าง เป็นการเปลี่ยนอิริยาบท แต่อย่าทำในลักษณะที่ขัดการสอนนะคะ ให้ดูจังหวะให้ดี ลองยกมือตอบ บ้างอะไรบ้าง ผิดก็ช่าง อาจารย์จะยิ่งมองว่าเราใส่ใจ และสนใจการเรียนซะอีก 


     - ระหว่างเรียน ก็ต้องแสดงออกด้วยว่า เราตั้งใจฟัง ไม่ว่าจะสบตาอาจาย์ พยักหน้า เพราะว่ามันสามารถส่งผลถึงคะแนนเราได้ค่ะ อาจารย์ท่านจะรู้สึกดีถ้าน้องๆ คนไหนตั้งใจฟัง ท่านก็จะพอใจ ยินดีให้ความช่วยเหลือ เกิดมาเห็นน้องๆ นั่งเฉยเบลอๆ ซึมๆ ท่านอาจจะไม่ชอบใจก็ได้ค่ะ


     - หมดชั่วโมงแล้วๆๆ อย่าเพิ่งดีใจอย่างเดียวค่ะ ก่อนออกจากห้อง ก็ทบทวนสิ่งที่เรียนวันนี้ไปสักนิด จะดูโน๊ต นึกภาพต่างๆ ก็ได้ค่ะ พอออกไปนอกห้อง จะได้ไม่ลืมเนื้อหาที่เรียนวันนี้




วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

14 อาการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังแอบมีความรัก


   

   1.อยากเห็นหน้าไม่งั้นบ้าตาย

   2.คิดถึง… ตั้งแต่ตื่นนอน … จนถึงเข้านอน  หรือไม่ก็ฝัน มันซะเลย ไม่เว้นแม้แต่เข้าห้องน้ำ

3.เห็นหน้าเขาคนนั้นทีไร หัวใจก็เต้นโครมคราม โดยไม่มีเหตุผล

4.แอบมองเขา ทั้งระยะใกล้ และระยะไกล ไม่ให้เขารู้ตัว ไม่กล้าสบตา เดี๋ยวเขารู้

5.เกาะติดสถานการณ์ เห็นเขาอยู่ไหน พยายามพาตัว เข้าไปใกล้ใกล้

   6.อยากรู้จัก อยากพูดคุย อยากได้ยินเสียง อยากยิ้มให้

7.โรแมนติกขึ้นมาหน้าตาเฉย มีการพับดาวใส่ขวด เขียนกลอน เพ้อรำพึงรำพัน

8.เห็นเขาเดินกับใคร คุยกับใคร หัวใจปั่นป่วน จวนจะระเบิด

9.หวั่นไหวไปกับเสียงเพลง และมิวสิควีดีโอ แอบยิ้มหวาน คนเดียว

10.ห่วงใยความสวยของตัวเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

11.สืบเสาะแสวงหาข้อมูลส่วนตัวของเขา เกิดวันไหน เรียนห้องไหน บ้านอยู่ไหน เบอร์โทรอะไร หาให้วุ่น

12.อยากรู้ว่าเขาชอบอะไร ดูหนังฟังเพลงแบบไหน อะไรนะที่เป็นของโปรด

13.เริ่มคิดหนักว่าเขามีใครเป็นหวานใจหรือยัง แล้วอย่างเรานี่สเป็กเขารึเปล่าเนี่ย เริ่มจินตนาการไปต่างต่างนานา

14.เริ่มบนบานศาลกล่าว ผ่านดวงดาว ลมหนาว ดวงจันทร์ ยันดวงอาทิตย์ ช่วยให้สมหวังที



วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

6 หัวข้อ อ่านหนังสือเป๊ะ! ใน 1 เดือน


       เทคนิค 6 ข้อ ที่ควรทำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบให้ได้ผล ใน 1 เดือน ซึ่งอาจจะมีข้อสำคัญสำหรับน้องๆ คือ การเลิก Chat ไปสักระยะ (แหม ข้อนี้ทำร้ายจิตใจกันจริงๆ นะคะ) แต่ก็นั่นล่ะค่ะ แชทมากไปก็ไม่ดี น้องๆ ก็รู้อยู่ แชทพอให้หายเครียดก็คงเป็นทางสายกลางที่น่าจะทำนะคะ.. เอ๊า มาดูกัน ว่ามีเทคนิคอะไรน่าสนใจบ้าง


       1.ต้องเลิกเที่ยว เลิกดื่ม เลิกสร้างบรรยากาศที่ไม่ใช่การเตรียมสอบ เลิก chat ตอนดึกๆ เลิกเม้าท์โทรศัพท์นานๆ ตัดทุกอย่างออกไป ปลีกวิเวกได้เลย ต้องทำให้ได้ ถ้าไม่ได้อย่าคิดเลยว่าจะสอบติด ฝันไปเถอะ
       2.ตัดสินใจให้เด็ดขาด ว่าต่อไปนี้จะทำเพื่ออนาคตตัวเอง บอกเพื่อน บอกพ่อแม่ บอกทุกคนว่า อย่ารบกวน ขอเวลาส่วนตัว จะเปลี่ยนชีวิต จะกำหนดชีวิตตัวเอง จะกำหนดอนาคตตัวเอง เพราะเราต้องการมีอนาคตที่กำหนดได้ด้วยตัวเอง ใช่หรือไม่
       3.ถ้าทำ 2 ข้อไม่ได้ อย่าทำข้อนี้ เพราะข้อนี้คือ ให้เขียนอนาคตตัวเองไว้เลยว่า จะเรียนต่อคณะอะไร จบแล้วจะเป็นอะไร เช่น จะเรียนพยาบาล ก็เขียนป้ายตัวใหญ่ๆ ติดไว้ข้างห้อง มองเห็นตลอดเลยว่า “เราจะเป็นพยาบาล” จะเรียนแพทย์ก็ต้องเขียนไว้เลยว่า “ปีหน้าจะไปเหยียบแผ่นดินแพทย์ศิริราช-จุฬา” อะไรทำนองนี้ เพื่อสร้างเป้าหมายให้ชัดเจน
       4.เตรียมตัว สรรหาหนังสือ หาอาจารย์ติว หาเพื่อนคนเก่งๆ บอกกับเค้าว่าช่วยเป็นกำลังใจให้เราหน่อย ช่วยเหลือเราหน่อย หาหนังสือมาให้ครบทุกเนื้อหาที่จะต้องสอบ เตรียมห้องอ่านหนังสือ โต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ ให้พร้อม
       5.เริ่มลงมืออ่านหนังสือ เริ่มจากวิชาที่ชอบ เรื่องที่ถนัดก่อน ทำข้อสอบไปด้วย ทำแบบฝึกหัดจากง่ายไปยาก ค่อยๆ ทำ ถ้าท้อก็ให้ลืมตาดูป้าย ดูรูปอนาคตของตัวเอง ต้องลงมืออ่านอย่างจริงจัง อย่างน้อยวันละ 10 ชั่วโมง แล้วจะทำได้ไง วิธีการคือ อ่านทุกเมื่อที่มีโอกาส อ่านทุกครั้งที่มีโอกาส หนังสือต้องติดตัวตลอดเวลา ว่างเมื่อไรหยิบมาอ่านได้ทันที อย่าปล่อยให้ว่างจนไม่รู้จะทำอะไร ที่สำคัญอ่านแล้วต้องมีโน้ตเสมอ ห้ามนอนอ่าน ห้ามกินขนม ห้ามฟังเพลง ห้ามดูทีวี ห้ามดูละคร ดูหนัง อ่านอย่างเดียว ทำอย่างจริงจัง
       6.ข้อนี้สำคัญมาก หากท้อให้มองภาพอนาคตของตัวเองไว้เสมอ ย้ำกับตัวเองว่า “เราต้องกำหนดอนาคตของตัวเอง ไม่มีใคร กำหนดให้เรา เราต้องทำได้ เพราะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” ให้กำลังใจกับตัวเองอยู่เสมอ บอกกับตัวเองอย่างนี้ทุกวัน หากท้อ ขอให้นึกว่า อย่างน้อยก็มีผู้เขียนบทความนี้เป็นกำลังใจให้น้องๆ เสมอ นึกถึงภาพวันที่เรารับปริญญา วันที่เราและครอบครัวจะมีความสุข วันที่คุณพ่อคุณแม่จะดีใจที่สุดในชีวิต ต่อไปนี้ต้องทำเพื่อท่านบ้าง อย่าเห็นแก่ตัว อย่าขี้เกียจ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง เลิกนิสัยเดิมๆ เสียที

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความเข้มแข็งที่ช่วยให้เราก้าวเดิน


คนเราทุกคนย่อมเคยมีช่วงเวลาที่ผิดหวัง เสียใจ หรือพลาดหวังจากสิ่งที่เราต้องการ แน่นอนเพื่อพบกับความผิดหวังคนเราย่อมรู้สึกเสียใจ ท้อแท้ ห่อเหี่ยวบ้างเป็นธรรมดา



สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราก้าวผ่านความรู้สึกเหล่านั้นไปได้ อยู่ที่กำลังใจและความเข้มแข็งของตัวเรานั้น เพราะเมื่อเราพบกับความผิดหวังหากเรามีความเข้มแข็งมีกำลังใจที่ดี เราจะมีความคิดว่าสิ่งเหล่านั้นคือบทเรียนที่ช่วยให้เราเติบโต และเวลาก็จะช่วยให้ความผิดหวังจางหายไปในที่สุด เหลือไว้เพียงความคิดในการพัฒนาตัวเราให้สามารถเอาชนะปัญหาที่อาจผ่านเข้ามาในชีวิต ผิดกับคนที่ขาดความเข้มแข็งทางใจอาจแก้ปัญหาโดยหันไปพึ่งสิ่งเสพติด เหล้ายา หรือประชดตัวเองด้วยทำร้ายตนเอง แต่สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลืมความทุกข์เพียงชั่วคราว และอาจเพิ่มปัญหาอีกมากมายในชีวิต

สร้างความเข้มแข็งทางจิตใจให้เกิดขึ้น ให้ความผิดพลาดเป็นเพียงเครื่องเตือนใจให้ระวัง ใช้ความหวังและพลังใจในการลุกขึ้นเพื่อก้าวต่อไปยังจุดหมายของตัวเรา

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความหมายของความรัีก




แม้จะมีคนบอกว่า
"ในระหว่างคนสองคนที่รักกัน คนที่เป็นฝ่ายรักมากกว่า จะเป็นคนที่อ่อนแอ"
เพราะคนที่รักมากกว่า จะแคร์มากกว่า จะห่วงมากกว่า จะร้อนรนมากกว่าถ้าอีกคนหนึ่งคนหนึ่งเงียบหายไป
แต่จะมีสักกี่คู่รัก ที่คนสองคนต่างก็มีความรู้สึกเท่ากัน
จำนวนความห่วงใยที่เธอมีให้ฉัน จะมีเท่ากับจำนวนความห่วงใยที่ฉันมีให้เธอ
จำนวนครั้งที่เธอกดเบอร์โทรหาฉัน จะมีจำนวนเท่ากับจำครั้งที่ฉันกดเบอร์โทรหาเธอ
ความเท่ากันในความรัก มีจริงเหรอ?
ซึ่งถ้าเราเป็นฝ่ายที่รักเขาน้อยกว่าที่เขารักเรา
ก็คงไม่ค่อยมีปัญหาอะไร
เพราะเขาจะเอาใจใส่เรา มากกว่าที่เราเอาใจใส่เขา ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาจะนึกถึงเราก่อนคนอื่นเสมอ
และเขาจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับเรา โดยที่เราไม่ต้องเรียกร้อง
แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายที่รักเขามากกว่า
จะทำยังไงดีที่จะรักเขาต่อไป
 แบบไม่ยอมให้หัวใจของเราอ่อนแอไปกับความรักที่ไม่เท่ากัน
จะทำยังไงดีที่เราจะรักเขาให้มาก
 แต่เป็น "ความรักมาก" ที่ไม่ขาดหายความสุข
อยากให้เธอย้อนกลับไปถามใจตัวเอง ว่าเธอรักเขาเพราะอะไร
เธอรักเขาเพราะอยากให้เขารักเธอตอบ
หรือว่า..เธอรักเขา
เพราะเธอรู้สึกว่าการได้รักใครสักคนมันทำให้ชีวิตมีความหมาย
ถ้าเธอรักเพราะอยากได้ความรักตอบ สิ่งที่เป็นอยู่...มันก็ไม่ได้แย่นักไม่ใช่เหรอ
ในเมื่อเขาก็รักเธออยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะรักไม่มากเท่าที่เธอรักเขาก็ตาม
อย่าเรียกร้องอะไรกับความรักนักเลย และยิ่งถ้าเธอตอบว่ารัก
เพราะรู้สึกว่าการได้รักใครสักคน มันทำให้ชีวิตมีความหมาย มันยิ่งไม่สำคัญว่าเขาจะรักเธอเท่าไหร่
จะรักเท่าที่เธอรักเขาหรือเปล่า เพราะถึงอย่างไรเขาก็ยังมีอยู่ให้เธอได้รัก
อย่าร้อนรน อย่ากังวลกับอะไรไปก่อน
ทำทุกวันให้ดีที่สุด รักให้ดีที่สุด
แล้วลองรักแบบไม่คาดหวังอะไรตอบแทนกลับมา
รักแบบไม่ต้องถามหา  "เครื่องหมายเท่ากับ" ในความรัก
แม้จะทำได้ยาก  แต่ถ้าเธอทำได้
ที่สุดแล้วเธอจะได้รับ ความรักที่ดี ตอบกลับมา  อย่างที่ไม่ต้องร้องขอจากเขาสักคำเดียว




วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555


ชื่อ : ชญานี แสนสุกรี

อายุ : 17 ปี

กรุ๊ปเลือด : A

อยู่ ม.6/10

สิ่งที่ชอบที่สุดคือการได้ฟังเพลงและวาดรูปไปพร้อมๆ กัน


และชอบแมวมากที่สุด

นิสัยโดยประมาณ เงียบ (สุดๆ) แต่ยิ้มง่าย ไม่ค่อยสังคม แต่ใจดี (มั้ง)

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Nyan Cat คือ อะไร ?



ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวที่จะมี ตัวอะไรซักอย่างในรูปแบบพิกเซล หรืออนิเมชั่น 8 บิต ที่ฮิตกันซะเหลือเกิน จนถึงตอนนี้มีการ
เปิดชมผ่านสายตา ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านครั้งแล้วใน youtube มันคือ "Nyan cat" หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า "Pop Tart Cat"

Nyan Cat เป็นแมวบินได้ ที่มีลำตัวเป็นขนมเชอร์รี่ ป็อบทาร์ตเค้ก (cherry pop-tart) โดยที่ขณะบินไปในท้องฟ้าหรืออวกาศ จะส่าย
หางไปด้วย และหลงเหลือไว้เป็นเส้นทางสายรุ้ง พร้อมกับเพลงประกอบ "Nyanyanyanyanyanyanya!" (บ้างก็ว่าผายลม หรืออึเป็น
สายรุ้ง)

ว่ากันว่าใครทนฟังเพลงนี้ได้ มากกว่าสิบนาทีคง ไม่แคล้วกลายเป็นคนบ้า หรือติดใจคลั่งไคล้ nyan cat กันไปเลย

ตัวอนิเมชั่นนี้ถูกสร้างขึ้นแบบดั้งเดิมโดย Chris Torres (PRguitarman) ในวันที่ 2 เมษายน 2011 จากนั้นเขาได้โพสท์ลงไปยัง
เว็บไซต์ LOL-Comics เพื่อให้เป็นอะไรที่ดูน่ารัก หลังจากนั้นผู้ใช้งานยูทูปรายหนึ่งที่ชื่อ "saraj00n" ได้นำอนิเมชั่นแมว มารวมกับ
เพลง Nyanyanyanyanyanyanya! และอัพโหลดลงในยูทูป ในวันที่ 5 เมษายน 2011 จนกระทั่งฮิตติดลม เข้ามาชมกันอย่างต่อเนื่อง

สำหรับเพลง Nyanyanyanyanyanyanya! นั้น มาจากเสียงของคนที่ชื่อ ฮัทซุเนะ มิกุ(Hatsune Miku) ซึ่งถูกอัพโหลดไว้ตั้งแต่ในปี
2010 และสำหรับเนื้อเพลงหรือคำร้องว่า Nyan นั้นเป็นเสียงร้องของแมว ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง

ความฮิตของ Nyan Cat ไม่ได้มาจากเวอร์ชั่นดั้งเดิมเท่านั้น มันยังถูกทำออกมาในแบบล้อเลียนภาพยนตร์ต่างๆ หลายเวอร์ชั่น ได้แก่
เวอร์ชั่น Starwar หรือเวอร์ชั่น Star Trek (ค่อนข้างเป็นที่แน่ชัดแล้ว ว่าแมวบินอยู่ในอวกาศ) หรือไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นล้อเลียนใน
แบบเจ้าส้มน่ารำคาญ (Annoying Orange) ที่ขี่หลังยูนิคอร์นแล้วร้องเพลง Nyan ไปเรื่อยๆ


วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

10 ข้อดีของความทุกข์


1. ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น

2. รู้ถึงคุณค่าของความสุข

3. ทำให้มีความสามารถมากขึ้น

4. ทำให้คิดเรื่องต่างๆ ที่ต้องทำได้ (เพื่อให้หลุดจากวงจรแห่งความทุกข์)

5. ทำให้สามารถแก้ปัญหาเป็น

6. มีความอดทนมากขึ้น

7. ทำให้มีความระมัดระวังมากขึ้น

8. ทำให้มองโลกได้กว้างมากขึ้น

9. ได้รู้ว่าใครที่สามารถพึ่งได้ให้สถานการณ์คับขัน

10. มองเห็นถึง บุคลที่เป็นห่วงเรา เป็นมิตรแท้ยามตกยาก 

และใคร ...ที่รักเรา





วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ปั่นการบ้าน

การบ้านเยอะเว่อร์เกินไปแล้วจ้า ปวดหัวเป็นบ้าเลย

วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ไปรับของ

วันนี้ไปรับของที่ไปรษณีย์ครั้งแรก เดินมั่วๆ ไปเรื่อยเลย วันนี้ทำตัวเอ๋ออีกแล้ว เห้ออออ

วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อาการดีขึ้น

ปวดหัวน้อยลงแล้ว แต่วิงเวียนสุดๆ ไปเลย ไปทำการบ้านก่อนนะ

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ดูอาการ

หลังจากปวดหัวแทบตาย (ไม่รู้ว่าเป็นไมเกรน ก็ว่ากินพาราเท่าไหร่ก็ไม่หาย) ก็เริ่มดูแลตัวเอง ไม่นั่งตากแดด ไม่เครียด ไม่นอนดึก (รึป่าว) ก็หวังว่าอาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ นะเรา

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ไม่สบายอีกแล้ว

ปวดหัวเป็นวันที่สองหลังจากที่ปวดมาก่อนน้านั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์ แย่จริงๆ ไม่อยากไปหาหมอเลย คนเยอะเรื่องแยะ ปวดหัวหนักว่าเก่าแน่ๆ ไปกินยาก่อนดีกว่า จะได้นอน

วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

บริหารเสียง

ปลดปล่อยอารมณ์กับการร้องเพลงทั้งวัน มีความสุขจัง แต่ต้องเริ่มทำการบ้านแล้ว สู้ๆ

วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันศุกร์แล้ว

ต้องตัดสินใจอะไรหลายๆ อย่าง แถมยังต้องจำใจลืมบางสิ่งบางอย่างอีกด้วย มันรู้สึกแย่มากๆ เลยแฮะ มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกมั๊ยเนี่ย

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Diary

วันนี้จะต้องทำอะไรบ้างนะ ทำไมมันเยอะแยะเต็มไปหมดเลยล่ะ เห้อออ
แต่อยากน้อยวันนี้ก็ได้ไปเรียนพิเศษวันแรก และยังได้ของขวัญวันเกิดที่ผ่านมานานมาก ฮ่าๆ อย่างน้อยก็ยังได้ อย่างน้อยก็ยังไม่ลืม